1. เลือกทำเลใกล้แม่เหล็กดึงดูดคนจากทุกสารทิศ
ควรเป็นทำเลใกล้แหล่งงาน สถานที่ท่องเที่ยว และเดินทางสะดวกด้วยการขนส่งสาธารณะ อาทิ บีทีเอส หรือ เอ็มอาร์ที ส่วนในต่างจังหวัดก็ควรมีบริการที่อำนวยความสะดวกลูกบ้านในการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
2. มองโครงการที่มีมูลค่าสูงขึ้นในอนาคต
ทำเลที่มีการเจริญเติบโตสูงและรวดเร็ว และมีงบประมาณด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมเข้าไปช่วยเร่งการเจริญเติบโตทั้งจากภาครัฐและเอกชน
3. สภาพแวดล้อมน่าอยู่ไม่ปล่อยให้โทรม
ประเด็นนี้คงต้องพิจารณาจากการจัดการส่วนกลางของผู้ประกอบการจากโครงการที่ผ่านมาเป็นตัวช่วย
4. ขนาดห้องพอเหมาะไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป
ทั้งนี้ก็ดูตามงบในกระเป๋าเป็นองค์ประกอบสำคัญด้วยในการเลือกทั้งขนาดพื้นที่และระดับชั้น
5. ราคาต่อตารางเมตรน่าคบไม่แพง
ยิ่งชั้นสูงๆ ราคาต่อตารางเมตรก็ขยับตามไปด้วยเช่นกัน
6. ใช้เงินเย็นมาลงทุน ไม่รีบร้อนขาย
แม้ว่าคอนโดถือเป็นอสังหาฯที่มีสภาพคล่องสูงสุดแต่ก็ยังใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะหาคนเช่าหรือหาคนซื้อต่อ ไม่ง่ายเหมือนหุ้นที่สั่งขายปุ๊บก็ทำได้ทันที ดังนั้น การใช้เงินเย็นมาลงทุนทำให้ไม่จำเป็นต้องรีบขายสามารถเลือกเวลาที่เหมาะสมให้ได้รับกำไรสูงสุด
7. ผลตอบแทนแบบไม่มโน ต้องคุ้มเกิน 7% ขึ้นไป
บางคนทึกทักเอาเอง บางคนเชื่อพนักงานขายประจำโครงการว่า ปล่อยเช่าจะได้รับค่าเช่าสูง เราต้องหาข้อมูลเองว่าโครงการแถวนั้น เกรดและขนาดห้องคล้ายกันปล่อยเช่าที่เท่าไร จากนั้นนำมาคำนวณ
ค่าเช่าต่อเดือน คูณ 12 แล้วหารด้วยราคาคอนโดที่ซื้อมา แล้วคิดเป็นเปอร์เซนต์ หากได้ผลตอบแทนเกิน 7% ก็ดี เพราะสูงกว่าดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ย 3 ปีแรกประมาณ 2%-3%
8. หาดอกเบี้ยเงินกู้ถูกสุดเทียบหลายธนาคาร
ลงทุนคอนโดต้องอย่าขี้เกียจ ดอกเบี้ยเงินกู้ถือเป็นต้นทุนหลักสำหรับการลงทุน เราควรเปรียบเทียบอย่างน้อย 5 ธนาคาร แล้วยื่นกู้อย่างน้อย 3 ธนาคาร เพื่อเลือกธนาคารที่เสียดอกเบี้ยต่ำสุด วงเงินกู้ได้ตามต้องการ และมีเงื่อนไขรับได้ไม่มีค่าใช้จ่ายจุกจิก โดยการซื้อคอนโดใหม่กับแบรนด์ดังมีข้อดีตรงที่มักได้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษจากธนาคาร
9. ตกแต่งห้องให้ครบ คุมงบให้อยู่
10. เลือกคนเช่าให้ดี จ่ายตรง ไม่ทำห้องพัง
ทั้งเจ้าของห้องและผู้เช่ามีสิทธิ์เลือกทั้งคู่ ดังนั้น ผู้เช่าที่ดูไม่น่าไว้วางใจก็ปฏิเสธได้ เจ้าของห้องควรถามคำถามกับคนที่จะมาเช่าให้รู้เรื่อง (Know Your Customer) โดยตั้งคำถามว่า ทำงานอะไรเพื่อดูความสามารถชำระค่าเช่า อยู่กันกี่คน ทำอาหารผัดกับข้าวในห้องไหม สูบบุหรี่หรือไม่ ทำความสะอาดห้องบ่อยไหม เพื่อประเมินว่าห้องจะมีสภาพเช่นไร
11. หาคนเช่าให้เป็น ไม่ปล่อยห้องว่างนาน
ซึ่งระยะเวลาหาไม่ควรเกิน 3 เดือน ถ้านานกว่านี้ควรให้นายหน้าช่วยหา โดยจะถูกหัก 1 เดือนเป็นค่านายหน้า ณ วันทำสัญญาเช่า หรืออีกทางเลือก คือหาโครงการที่มีการันตีค่าเช่า หรือมีการร่วมมือกับบริษัทรับบริหารห้องเช่าให้แบบครบวงจร จะได้คลายกังวล ทุกเดือนรอรับตังค์เข้าบัญชีอย่างเดียวเลยจ้า
